หลังเผชิญกับมลภาวะและสิ่งสกปรกในชีวิตประจำวัน นอกจากจะต้องกลับมาทำความสะอาดใบหน้าให้สะอาดหมดจดแล้ว ผิวของเรายังต้องการการบำรุงที่เหนือชั้น เพื่อเสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี และสวยใสประหนึ่งผิวสาววัยแรกรุ่น ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ คงหนีไม่พ้น “เอสเซนส์” ไอเทมบำรุงผิวอย่างล้ำลึก ที่จะขาดไปไม่ได้เลยในสกินแคร์รูทีนของคุณ !
เอสเซนส์คืออะไร ?
เอสเซนส์ คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว แต่แฝงไว้ด้วยสารสกัดเข้มข้นที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าการบำรุงในปริมาณสูง ช่วยเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไปได้ดียิ่งขึ้น ให้ผิวของคุณแลดูชุ่มชื้น เนียนใส และคงความอ่อนเยาว์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เอสเซนส์คืออีกหนึ่งไอเทมที่สาว ๆ ผู้หลงใหลการดูแลผิวอย่างพิถีพิถันเลือกใช้เป็นประจำ
คุณสมบัติพิเศษของเอสเซนส์คืออะไร ?
มอบความชุ่มชื้นลึกถึงชั้นผิว
เอสเซนส์ทำหน้าที่เติมน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวในระดับเซลล์ ด้วยโมเลกุลของเนื้อสัมผัสที่เล็กกว่าเซรั่ม จึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกกว่าและรวดเร็วกว่า ช่วยฟื้นคืนสมดุลน้ำมันและน้ำในผิวให้เหมาะสม ลดความแห้งกร้านและอาการตึงผิวหลังล้างหน้าได้อย่างดีเยี่ยม
กระตุ้นการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก
ด้วยส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่เข้มข้น เอสเซนส์จึงสามารถฟื้นฟูผิวจากความอ่อนล้า ลดเลือนริ้วรอย และเสริมความแข็งแรงให้โครงสร้างผิว พร้อมปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ ความเครียด และแสงแดดที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ ในรูทีน
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้เอสเซนส์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือ ความสามารถในการช่วยเปิดทางให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น เสมือนเป็นตัวกลางที่ช่วยเตรียมผิวให้อยู่ในสภาพพร้อมรับสารบำรุงอย่างเต็มที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซรั่มและมอยส์เจอไรเซอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เอสเซนส์บำรุงผิวหน้าควรใช้ตอนไหน ?
มาถึงคำถามที่หลายคนน่าจะกำลังสงสัยว่า เอสเซนส์ควรใช้ตอนไหนจึงจะได้ผลดีที่สุด แต่ความจริง การเลือกใช้เอสเซนส์นั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละคน แต่โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้ใช้เป็นประจำทั้งเช้าและกลางคืน
1. ช่วงเช้า
หลังจากล้างหน้าและเช็ดโทนเนอร์เพื่อปรับสมดุลผิว ควรตามด้วยเอสเซนส์ทันที โดยเนื้อสัมผัสที่บางเบาจะช่วยปลุกผิวให้ตื่นตัว เติมความสดชื่นและความชุ่มชื้น พร้อมเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงและการแต่งหน้าในช่วงเช้า
2. ช่วงกลางคืน
ช่วงกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ผิวอยู่ในโหมดฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าและใช้โทนเนอร์เรียบร้อยแล้ว การเติมเอสเซนส์บำรุงผิวหน้าควรเป็นขั้นตอนถัดไป เพื่อให้สารบำรุงซึมซาบลึกสู่ชั้นผิว พร้อมบูสต์การฟื้นตัว ลดอาการอ่อนล้า และช่วยให้ผิวตื่นมาอย่างสดใส เปล่งปลั่ง เนียนนุ่มน่าสัมผัส
ขั้นตอนการใช้เอสเซนส์บำรุงผิวหน้า
1. ทำความสะอาดผิวหน้าและเช็ดให้แห้ง
เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดด้วยคลีนเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้งสนิทเพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุง
2. เทเอสเซนส์ลงบนฝ่ามือประมาณ 2-3 หยด
ควรเลือกใช้ปริมาณที่พอเหมาะ โดยเทผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือประมาณ 2-3 หยด ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอในการบำรุงทั่วทั้งใบหน้า โดยไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ
3. แตะและกดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า
ใช้ปลายนิ้วแตะเอสเซนส์แล้วกดเบา ๆ ลงบนผิวหน้า ไล่จากบริเวณแก้ม หน้าผาก คาง และจมูก โดยเน้นบริเวณที่รู้สึกแห้งหรือมีริ้วรอยเป็นพิเศษ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต และเพิ่มการดูดซึมของสารบำรุงได้ดียิ่งขึ้น
4. รอให้ซึมเข้าสู่ผิวก่อนจะทาผลิตภัณฑ์ถัดไป
ปล่อยให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิวประมาณ 30-60 วินาที ก่อนลงผลิตภัณฑ์บำรุงในขั้นตอนต่อไป เช่น เซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อให้เนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ไม่เกิดการทับถมกันและสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
เอสเซนส์ไม่เพียงแค่ให้ความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนตัวช่วยพิเศษที่จะเติมเต็มความต้องการของผิวอย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม ล้วนสามารถได้รับประโยชน์จากเอสเซนส์ได้อย่างครอบคลุม
Jung Saem Mool ได้พัฒนาเอสเซนส์ที่ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว ด้วยสูตรเฉพาะที่อุดมไปด้วยสารสกัดธรรมชาติ มีส่วนผสมของเซราไมด์และแพนทีนอล ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก สั่งซื้อเอสเซนส์บำรุงหน้าและสกินแคร์บำรุงผิวออนไลน์ได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ พร้อมรับบริการจัดส่งฟรีทั่วประเทศไทยสำหรับคำสั่งซื้อที่มียอด 500 บาทขึ้นไป !